Connect with us

MOBILE GAMES

องค์ประกอบการพัฒนาตัวละครใน Honkail: Star Rail ที่จะทำให้เมนของคุณขั้นเทพ !

อยากทำให้ตัวอวยของคุณเก่งเหรอ ลองมาพัฒนาตัวละครด้วยวิธีเหล่านี้กัน

Published

on

ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมที่พัฒนาโดยผู้สร้าง Genshin Impact ชื่อชั้นของ HoYoVerse  ก็ต้องมาพร้อมระบบเกมเพลย์ที่หลากหลาย มีสิ่งที่ผู้เล่นต้องทำไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องของการพัฒนาตัวละครภายในเกม ซึ่งเกมอย่าง Honkail: Star rail ก็มาพร้อมระบบการพัฒนาตัวละครที่ละเอียดยิบ เรียกได้ว่า ตัวละครแต่ละตัว นอกจากจะทำให้เก่งไม่พอแล้ว ถ้าหากต้องการให้มันเก่งแบบสุดยอด มันก็ต้องตั้งใจและฟาร์มหนักสุดๆ โดยวันนี้ Daily Heckle จะพาไปดูกัน ว่าการจะพัฒนาตัวละครในเกม Honkail: Star Rail ให้เก่ง ต้องทำอย่างไรบ้าง รายละเอียดจะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

หาตัวละครจากไหนใน Honkail: Star Rail
ตัวละครภายในเกมนี้จะแบ่งออกเป็นสองระดับ ได้แก่ ตัวละครห้า และตัวละครสี่ดาว สามารถหาได้จากตู้กาชาอีเวนต์ และตู้กาชาถาวร ส่วนตัวละครสี่ดาวบางตัว จะสามารถหาได้จากการเล่นเนื้อเรื่องโดยจะปลดล็อคให้ถ้าหากเล่นเนื้อเรื่องไปถึงระดับหนึ่ง นอกจากนี้แล้วตัวละครห้าเดียวบางตัว ก็จะมาในรูปแบบอีเวนต์ มาเฉพาะช่วงเท่านั้น

ถ้าหากเปิดไม่ออก ต้องรอไปอีกนานเลย ซึ่งตัวละครอีเวนต์พวกนี้จะเก่งกว่าตัวอื่นๆอย่างมาก แต่ภายในเกม Honkail: Star Rail ตัวละครทุกตัวล้วนเก่งหมด อยู่ที่ว่าเราจะบิลด์ออกมาในรูปแบบไหน ตัวแจกฟรี ก็สามารถเล่นจบคอนเทนต์ได้ แต่แค่ตัว 5 ดาวมันจะโกงกว่าแบบก้าวกระโดด

รายละเอียด Element (ธาตุ).
Honkail: Star Rail จะเป็นเกมที่ตัวละครมีความหลากหลายอย่างมาก โดยแต่ละตัวก็จะมีธาตุเป็นของตัวเอง ประกอบไปด้วย 7 ธาตุหลัก ได้แก่ Physical (กายภาพ), Fire (ไฟ) , Ice (น้ำแข็ง) , Lightning (ไฟฟ้า), Wind (ลม) , Quantum (ควอนตัม) เเละ Imaginary (จินตภาพ) นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยความสามารถในด้าน Combat รายละเอียดดังนี้


Physical (กายภาพ) – ฺBleed (เลือดไหล): ทำความเสียหายกายภาพเพิ่มเติม และทำให้ศัตรูติดสถานะ Bleed (สร้างความเสียหายกายภาพต่อเนื่อง)

Fire (ไฟ) – Burn (เผาไหม้): ทำความเสียหายไฟเพิ่มเติม และทำให้ศัตรูติดสถานะ Burn (สร้างความเสียหายไฟต่อเนื่อง)

Ice (น้ำแข็ง) – Freezes (แช่แข็ง): ทำให้ศัตรูติดสถานะ Freezes ซึ่งจะทำให้ศัตรูไม่สามารถ Take Action อะไรได้เลย และทำความเสียหายน้ำแข็งต่อเนื่อง

Lightning (ไฟฟ้า) – Shock (ช็อค): ทำความเสียหายไฟฟ้าเพิ่มเติม และทำให้ตู้ติดสถานะ Shock (สร้างความเสียหายไฟฟ้าต่อเนื่อง)

Wind (ลม) – Wind Shear (สายลมเชือดเฉือน): ทำความเสียหายลมเพิ่มเติม และทำให้ศัตรูติดสถานะ Wind Shear (สร้างความเสียหายลมต่อเนื่อง)

Quantum (ควอนตัม) – Entanglement (ความพัวพัน): ทำให้ศัตรูสถานะ Entanglement ซึ่งจะทำให้ศัตรูกลับไปยัง Turn Order ของตัวเอง และทำความเสียหาย Quantum ต่อเนื่อง

Imaginary (จินตภาพ) – Imprisonment (คุมขัง): ทำให้ศัตรูติดสถานะ Imprisonment ซึ่งจะทำให้ศัตรูกลับไปเริ่มยัง Turn Order ของตัวเอง และลด Speed (ความว่องไว) ของศัตรูลง

การพัฒนาตัวละครประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ?
การที่ตัวละครของเราจะเก่งได้นั้น จะมาจากการพัฒนาในส่วนของ Light Cone, Trace, รีลิกส์ และ Eidolon โดยรายละเอียดแต่ละส่วนจะมีดังนี้

Light Cone
นี้คือสิ่งที่ชี้วัดเลยว่าตัวละครของคุณจะเก่งหรือกาก Light Cone นั้นทำหน้าที่เปลื่ยนเหมือนกับอาวุธหลักประจำตัวของเหล่าตัวละคร โดยแบ่งออกเป็นระดับ 3 – 5 ดาว แต่สิ่งที่สำคัญเลยก็คือ ถ้าหากอยากให้ตัวละคร 5 ดาวเก่ง ก็ควรที่จะใส่ Light Cone ประจำตัว เพราะนอกจากสเตตัสที่สูงแล้ว ยังมาพร้อม เอฟเฟคติดตัวพิเศษ ที่ทำออกมาเพื่อตัวละครนั้น

ถ้าหากใส่ Light Cone ไม่ตรงตัวละคร ก็อาจจะทำให้เก่งไม่สุด แรงไม่สุด แต่ว่าบางตัวละคร ก็จะมี Light Cone แนะนำที่อาจจะไม่ใช่ Light Cone ประจำตัว หรือไปใส่ของตัวอื่นแทน แต่ถ้าเป็นตัวดาเมจแล้ว ส่วนมากจะนิยมใส่ของตัวเอง เป็นหลัก โดยสามารถอัพเกรดได้ถึง 5 ระดับ ทำให้โกงแบบสุดๆ แต่แลกกับการที่ต้องใช้เงินเปิดกาชาไม่น้อยเลย กว่าจะได้ระดับ5 ถ้าหากคุณไม่ใช่วาฬ จัดแค่ระดับ 1 ก็แรงแบบสุดๆแล้ว

Trace
คือตารางอัพเกรดในส่วนของสกิล เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่น้อย เพราะถ้าหากสเตตัสดีแล้ว แต่สกิลมีข้อจำกัด ก็จะไม่เก่งได้โดยสกิลภายในเกมนี้จะประกอบไปด้วย สกิลเทคนิค, สกิลต่อสู้, สกิลพรสวรรค์, สกิลท่าไม้ตาย และการโจมตีปกติ แต่ละตัวนั้นก็จะใช้การพัฒนาที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งถ้าหาก Trace ได้ครบถ้วน ก็จะทำให้ตัวละครมีความสามารถมากขึ้น สกิลมีความพิเศษมากขึ้น มีเอฟเฟคพิเศษในช่วงเลเวลสูงๆ จากที่เก่ง จะกลายเป็นโกงเลยก็ว่าได้ แต่ค่อนข้างใช้ทรัพยากรเยอะ ทำให้ผู้เล่นต้องวางแผนให้ดีว่าจะพัฒนาตัวละคร ตัวไหนก่อน

รีลิกส์
ในส่วนของรีลิกส์ก็จะเปรียบเหมือนกับเกียร์ของตัวละคร โดยทำหน้าที่เพิ่มค่าสเตตัสต่างๆ ให้ตัวละครนั้น มีประสิทธิภาพที่มากขึ้น โดยสามารถฟาร์มหาจากดันเจี้ยนได้แบบง่ายดาย แต่สิ่งที่ยากก็คือ คุณต้องหา เซ็ทที่มีค่าสเตตัสเหมาะกับตัวละคร เช่นตัวละคร A ต้องหาออฟที่เกี่ยวกับ ATK เป็นหลัก แต่สำหรับตัวละคร B ขอเน้นค่าคริติคอลก็พอ

ซึ่งเป็นความยากและเกลือของเกมนี้ เพราะกว่าที่คุณจะทำให้ตัวละครมีออฟเสริม ออฟหลักที่ตรงใจ มันต้องฟาร์มขนาดไหน ก็ไม่สามารถตอบได้ แต่ถ้าหากทำได้ละก็ ตัวละครคุณจะ Super Power สุดๆ โดยแต่ละตัวละคร ก็จะมีเซ็ทตามประเภทให้ได้เลือกใช้กัน

Eidolon
ส่วนนี้คือปัจจัยวัดความรวยหรือความดวงดีก็ว่าได้ เพราะว่านี้คือส่วนของการปลดขั้นพิเศษของตัวละคร โดยจะมากสุด 6 ขั้น หรือที่เราเรียกกันว่า E1 E2 E3 E4 E5 E6 โดยแต่ละขั้นนั้นจะมีการเพิ่มความสามารถพิเศษที่ทำให้ตัวละครนั้นโดดเด่นขึ้นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ตัวละคร A ควรทำ E3 เพราะจะเป็นช่วงที่พีคที่สุดในด้านสกิลต่างๆ แต่ถ้าหากรวย ทำ E6 ได้ ก็จะเก่งแบบโคตรๆ แต่สำหรับการปั้นตัว 4 ดาวไม่ต้องห่วงเลย ปั้นค่อนข้างง่าย แต่จะหนักที่พวกตัว 5 ดาว ซึ่งพื้นฐานของตัวละครระดับนี้มันก็เก่งอยู่แล้ว แต่ถ้าหากปลดล็อค Eidolon ได้ มันจะกลายเป็นตัวละครระดับเทพทันที

สรุปองค์ประกอบทั้งหมดที่ทำให้ตัวละครคุณเก่ง
– หา Light Cone ให้ตรงสายกับตัวละคร
– อัพ Trace ให้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะทำได้ ณ ตอนนั้น
– ให้ความสำคัญกับการหารีลิกส์ที่เหมาะกับตัวละคร
– อัพเกรด Edidolon เท่าที่ทำไหว

MOBILE GAMES

ปั้นเหอะขอร้อง : Tingyun ตัวละคร 4 ดาว บัพเพิ่ม Atk สุดปัง จาก Honkai: Star Rail

Tingyun ตัวละคร 4 ดาว ที่คุณต้องปั้น !

Published

on

By

ใน Honkai: Star Rail มีตัวละครต่างๆมากมาย โดยหลักๆนอกจากตัวดาเมจที่ไว้ใช้แบกแล้ว อีกหนึ่งประเภทตัวละครที่สำคัญเลยก็คือตัวซัพพอร์ตที่ไว้คอยช่วยเหลือตัวละครต่างๆในทีม โดยจะมีการซัพพอร์ตหลายรูปแบบ ซึ่งคอนเทนต์ระดับสูงในเกม สิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือตัวละครซัพพอร์ตที่สามารถช่วยบัพเพิ่มพลังให้กับภายในทีม โดยวันนี้ Daily Heckle จะมาแนะนำให้รู้จักกับตัวละคร Tingyun ตัวละครบัพ Atk ธาตุสายฟ้า ที่ไม่ว่าจะเป็นไอดีไหน ก็ต้องปั้นติดตัวไว้ในไอดี รายละเอียดรวมถึงจุดเด่นจะมีไรบ้างนั้นไปดูกัน

เป็นตัวละครที่ช่วยบัพเพิ่มค่า Atk ให้กับเพื่อนร่วมทีม
Tingyun เป็นตัวละครที่จะสามารถช่วยบัพ Atk ให้กับตัวละครหนึ่งตัวภายในปาร์ตี้ โดยสามารถบัพได้แค่หนึ่งตัวละครเท่านั้น เลยนิยมใช้นำไปเล่นกับตัวดาเมจแรงๆ อย่าง Kafka, Jing yuan และ Seele ซึ่งตัวละครที่ได้รับบัพ จะได้รับค่าสถานะเพิ่ม Atk ทั้งหมด 3 เทิรน์ เท่านั้น และส่งผลให้ตัวของ Tingyun รวมถึงตัวที่โดนบัพ จะได้โบนัสความเสียหายเพิ่มเติม โดยสกิลการบัพของ Tingyun จะอ้างอิงจากค่า Atk เป็นหลัก ถ้าอยากได้บัพแรงๆ ก็ต้องพยามอัดค่า Atk ให้เธอ โดยเฉลี่ย ATK2,000 – ATK2,800 ก็จัดว่าสุดๆแล้ว ซึ่งผู้เขียนเองก็ใช้อยู่ ATK2,500 ใช้ได้ยาวๆยัน End game

ช่วยเพิ่มค่าพลังงานทำให้อันติไว
สกิลสำคัญอีกหนึ่งของ Tingyun นั้นก็คือท่าไม้ตายอย่าง Amidst the Rejoicing Clouds ที่จะช่วยฟื้นฟูพลังงานให้กับหนึ่งตัวละคร และยังเพิ่มค่าความเสียหายได้อีก 29% เป็นเวลาสองเทิรน์ ทำให้คอมโบเปิดเกมก็เพียงแค่ บัพด้วยสกิล และตามด้วยอันติต่อ  หรือถ้าหากต้องลงดันระดับสูง ก็สามารถกดสกิลเทคนิคก่อนเริ่มเกมได้ โดยกดสองครั้ง ก่อนเข้าเฟสเริ่มเกม ก็จะได้ทำให้สามารถใช้อันติได้ทันที

เป็นตัวละครที่ช่วยเพิ่มสกิล Point ได้อย่างยอดเยี่ยม
การใช้งานเธอนั้นเป็นอะไรที่ง่ายและสะดวกกับทีมอย่างมาก คุณแค่บัพหนึ่งครั้ง และอีกสามครั้งก็ใช้การโจมตีธรรมดา เพื่อปั้มแต้มสกิลให้กับทีม ทำให้เป็นตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องเปลืองแต้มสกิลเลย จึงเป็นตัวละครที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ปั้นติดไว้ภายในทีมกันทุกคน

ค่าสเตตัสพื้นฐานจัดวางบางเฉียบ แต่แลกด้วยความเร็วเริ่มต้นที่สูง
แม้ว่า Tingyun จะมีความสามารถที่โดดเด่น แต่ก็เป็นตัวละครที่ตายง่ายมาก บางแบบกระดาษ A4 แต่เป็นตัวละครที่ดันค่าความเร็วได้ง่าย ขึ้น 150 ไม่ยาก ในส่วนของการใส่รีลิกส์ ช่วงต้นเกมต้องบอกตรงๆว่ามีอะไรให้พอใส่ได้ก็ใส่ไปก่อน พอตัวละครหลักมีของแล้ว ก็คอยมาปั้นตัว Tingyun ต่อ ถ้าเป็นไปได้ก็ใส่เซ็ทรีลิกส์อย่าง Musketeer of Wild Wheat เพราะมันช่วยเพิ่มค่า Atk พื้นฐานถึง 12% รวมถึงได้ความเร็วอีก 6% ถ้าหากเพื่อนๆสงสัยว่า ควรมีค่าสเตตัสสักเท่าไร ก็ขอแนะนำที่ Atk 2,500 โดยออฟหลักก็จะเป็นค่า Atk สะส่วนใหญ่ เพื่อบัพที่แรงแบบสุดๆ และค่า HP 3,500 จะได้มีโอกาสเอาตัวรอดมากขึ้น

Light Cone ที่แนะนำ
The Battle Isn’t Over (แนะนำมาก ถ้ามี)

ทำให้อัตราการฟื้นฟูพลังงานของผู้สวมใส่เพิ่มขึ้น 10%/12%/14%/16%/18% และเมื่อเป้าหมายฝ่ายตัวเองปล่อยท่าไม้ตาย จะฟื้นฟูแต้มสกิลต่อสู้ 1 แต้ม โดยเอฟเฟกต์นี้ จะสามารถเกิดขึ้นได้ 1 ครั้งหลังจากใช้ท่าไม้ตายทุกๆ 2 ครั้ง และหลังจากผู้สวมใส่ใช้สกิลต่อสู้ จะทำให้ DMG ในแอ็กชันถัดไปของเป้าหมายตัวอื่นในฝ่ายตัวเองเพิ่มขึ้น 30%/35%/40%/45%/50% เป็นเวลา 1 เทิร์น

Carve the Moon, Weave the Clouds       
เมื่อเริ่มการต่อสู้และเมื่อเริ่มต้นเทิร์นของผู้สวมใส่ จะสุ่มเกิดเอฟเฟกต์ 1 เอฟเฟกต์ โดยเมื่อเอฟเฟกต์นี้แสดงผล จะแทนที่เอฟเฟกต์ก่อนหน้า โดยจะไม่ซ้ำกับเอฟเฟกต์เดิม ซึ่งเอฟเฟกต์จะมีดังต่อไปนี้ : ทำให้ ATK ของฝ่ายตัวเองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10%/12.5%/15%/17.5%/20% , ทำให้ DMG คริติคอลของฝ่ายตัวเองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 12%/15%/18%/21%/24% , ทำให้อัตราฟื้นฟูพลังงานของฝ่ายตัวเองทั้งหมดเพิ่มขึ้น 6%/7.5%/9%/10.5%/12% โดยที่เอฟเฟกต์ประเภทเดียวกันจะไม่สามารถซ้อนทับกันได้ และจะลบล้างเมื่อผู้สวมใส่หมดสติ

Past and Future
หลังจากผู้สวมใส่ใช้สกิลต่อสู้ จะทำให้ DMG ในแอ็กชันถัดไปของเป้าหมายตัวอื่นในฝ่ายตัวเองเพิ่มขึ้น 16%/20%/24%/28%/32% เป็นเวลา 1 เทิร์น

Dance! Dance! Dance! (ส่วนตัวใช้อันนี้อยู่)              
หลังจากผู้สวมใส่ใช้ท่าไม้ตายจะเร่งแอ็กชันของฝ่ายตัวเองทั้งหมด 16%/18%/20%/22%/24%

สรุปภาพรวมของตัวละคร
สำหรับการแนะนำว่าตัว Tingyun ควรไปเล่นทีมไหน ก็คงบอกได้เลยว่าเหมาะทุกทีม ตัวไหนที่ต้องการบัพดาเมจ ต้องการเพิ่มพลังงานให้อันติไวๆก็จัดได้หมด ถ้าเป็นเมต้านี้ ก็คงยกให้ Dan Heng ร่างมังกร และ Kafka แต่ถ้าสายอวยนายพล Jing Yuang ก็เหมาะอย่างยิ่งครับ บอกเลยว่าช่วงกลางเกมถ้าได้ปั้นตัวละครนี้จะเก่ง ตามที่ผู้เขียนแนะนำรายละเอียดไป ช่วงท้ายเกมคอนเทนต์ไหนที่ว่าโหด คุณก็จะผ่านได้สบายแบบไร้กังวล ส่วนตัวชอบนำมาใช้เล่นกับทีม Kafka เพราะตัวละครนี้เน้นค่า Atk อยู่แล้ว พอได้บัพเข้ามาอีก บอกเลยว่าดาเมจโคตรสะใจ กดอันติที่มอนหายหมดเวฟ แต่ถ้าหากเพื่อนๆเล่นทีม Blade ตัวนี้ก็อาจจะยังไม่จำเป็น แต่เชื่อว่าในอนาคตได้ปั้นมาใช้อย่างแน่นอนครับ

Continue Reading

MOBILE GAMES

แนะนำตัวละคร Kafka ตัวละครคุณแม่ จาก Honkai:Star Rail ที่มาพร้อมดาเมจสายฟ้า

เเนะนำตัวละคร Kafka ดาเมจสาย DOT ที่เเรงที่สุดในเกม ณ ตอนนี้ !

Published

on

By

มาแรงจริงๆสำหรับตัวละครคุณแม่หรือ Kafka จากเกม HonKai: Star Rail นอกจากดีไซน์ตัวละครที่โดนใจหนุ่มๆหลายคน ในเรื่องของการใช้งานก็จัดว่าเป็นตัวละครที่สกิลรุนแรง สามารถสร้างความเสียหายประเภท DOT ได้แบบมหาศาล ยิ่งจัดทีมเฉพาะไปเล่น ก็เรียกได้ว่าเป็นเมต้าที่ดีที่สุดในเกมตอนนี้เลยก็ว่าได้ จัดว่าเป็นตัวละครอีเวนต์หน้าตู้ที่ไม่ควรพลาด โดยรายละเอียดความเก่งของตัวละคร Kafka จะมีอะไรบ้าง วันนี้ Daily Heckle จะพาไปเจาะลึกกัน !

ประเภทตัวละคร
Kafka คือตัวละครประเภท ลบล้าง แห่ง ธาตุสายฟ้า โดยความสามารถของตัวละครลบล้างก็คือ การสร้างเอฟเฟค Debuff แก่ศัตรู เพื่อทำความเสียหาย ชนิดพิเศษ ถ้าหากให้นิยมความสามารถของตัวละคร Kafka ก็คือ การแปะสถานะติดช็อตไฟฟ้าให้ศัตรู และ ระเบิดดาเมจ ทำให้ตัวละครประเภท DOT สามารถเล่นกับทีม Kafka ได้แบบมีประสิทธิภาพมากๆ เพราะจะช่วยรีดให้การระเบิดดาเมจออกมาแรงสุดๆ จัดว่าเป็นตัวละครที่ใช้งานง่าย ความสามารถเก่ง ยิ่งสายอวยคุณแม่ ไม่ควรพลาดอยู่แล้ว

รายละเอียดสกิล Kafka
Midnight Tumult – โจมตีปกติ
สร้าง DMG สายฟ้า 130% ของ ATK แก่ศัตรูที่กำหนดหนึ่งตัว

Caressing Moonlight – สกิลต่อสู้ สร้าง DMG สายฟ้า 200% ของ ATK แก่ศัตรูที่กำหนดหนึ่งตัว พร้อมทั้งสร้าง DMG สายฟ้า 75% ของ ATK แก่เป้าหมายที่อยู่ใกล้เคียงด้วยหากศัตรูที่กำหนดติดสถานะ DMG ต่อเนื่อง DMG ต่อเนื่องทั้งหมดในปัจจุบันของศัตรูดังกล่าวจะสร้าง DMG 82.5% ของ DMG เดิมทันที

Twilight Trill – ท่าไม้ตาย สร้าง DMG สายฟ้า 96% ของ ATK แก่ฝ่ายศัตรูทั้งหมด ศัตรูเป้าหมายที่ถูกโจมตีจะมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่จะติดสถานะช็อตไฟฟ้า และจะทำให้เป้าหมายที่ติดสถานะช็อตไฟฟ้า ได้รับ DMG 110% ของค่า DMG เดิมทันที ซึ่งสถานะช็อตไฟฟ้าจะคงอยู่เป็นเวลา 2 เทิร์น ในขณะที่ติดสถานะช็อตไฟฟ้า ศัตรูเป้าหมายจะได้รับ DMG สายฟ้าต่อเนื่อง 360.69% ของ ATK เมื่อเริ่มต้นในแต่ละเทิร์นด้วย

Gentle but Cruel – พรสวรรค์ หลังจากเพื่อนร่วมทีมโจมตีปกติใส่ศัตรูเป้าหมายจะทำการโจมตีต่อเนื่องโดยทันทีและจะสร้าง DMG สายฟ้า 189% ของ ATK แก่เป้าหมายดังกล่าว อีกทั้งมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่จะทำให้ศัตรูเป้าหมายที่ถูกโจมตีติดสถานะช็อตไฟฟ้าที่เทียบเท่ากับท่าไม้ตาย เป็นเวลา 2 เทิร์น โดยเอฟเฟกต์นี้จะเกิดขึ้นได้แค่เทิร์นละ 1 ครั้ง

Mercy Is Not Forgiveness – เทคนิค หลังจากโจมตีศัตรูทั้งหมดภายในขอบเขตที่กำหนดทันที และเข้าสู่การต่อสู้จะสร้าง DMG สายฟ้า 50% ของ ATK แก่ศัตรูทั้งหมด พร้อมทั้งมีโอกาสพื้นฐาน 100% ที่จะทำให้ศัตรูแต่ละตัวติดสถานะช็อตไฟฟ้าที่เทียบเท่ากับท่าไม้ตาย เป็นเวลา 2 เทิร์น

การคอมโบสกิลของ Kafka
ตัวละครนี้ถ้ากด Auto อาจจะรีดศักยภาพได้ไม่เต็มที่สักเท่าไร แต่ถ้ากดมือเอง บอกเลยว่าดาเมจพุ่งแน่นอน โดยหลักๆแล้ว ตัวของทีมต้องเหลือพลังงานเพื่อให้ Kafka ได้สกิลตลอดทุกเทิรน์ โดยการคอมโบก็จะต้อง ให้ตัวละครที่มีดาเมจ Debuff ได้ทำดาเมจก่อน ยกตัวอย่างเช่น Sampo ใช้ท่าให้ติดลมเฉือน พอมาเทิรน์ Kafka ก็ทำสกิล โดยดาเมจลมเฉือน ก็จะระเบิดออกมา คู่กับดาเมจช็อตสายฟ้าด้วยเช่นกัน ถ้าหากอยากให้สกิลนี้แรงสุดๆก็ต้องพยามทำให้ศัตรูติด Debuff ความเสียหายแบบ DOT ทิ้งไว้ รวมถึงการให้เพื่อนร่วมทีม โจมตีปกติ เพื่อให้ตัวของ Kafka ใช้พรสวรรค์ เพื่อเพิ่มสถานะช็อต ก็ต้องทำตลอด พยามเช็คคูลดาวน์ให้ดี และกดท่าไม้ตายทุกครั้งที่ใช้ได้ เพื่อช่วยในการเคลียร์ที่รวดเร็วแบบสุดๆ

Light Cone ที่ควรใช้ !
Patience Is All You Need
ทำให้ผู้สวมใส่สร้าง DMG เพิ่มขึ้น 24% หลังจากที่ผู้สวมใส่โจมตีในแต่ละครั้ง ความเร็วจะเพิ่มขึ้น 4.8% โดยสามารถซ้อนทับได้สูงสุด 3 ชั้น เมื่อผู้สวมใส่โจมตีโดนศัตรูเป้าหมาย หากเป้าหมายดังกล่าวไม่ได้ติดสถานะ “Erode” จะมีโอกาสพื่นฐาน 100% ที่จะทำให้เป้าหมายดังกล่าวติดสถานะ “Erode” เมื่อศัตรูเป้าหมายติดสถานะ “Erode” ก็จะถือว่าติดสถานะ ช็อตไฟฟ้า โดยขณะที่ติดสถานะ “Erode” เมื่อเริ่มต้นในแต่ละเทิร์น ศัตรูเป้าหมายจะได้รับ DMG ไฟฟ้าต่อเนื่อง 60% ของ ATK ของผู้สวมใส่ เป็นเวลา 1 เทิร์น

จริงๆแล้วตัวของ Kafka สามารถใช้ LC อื่นได้ แต่ส่วนตัวขอเชียร์สุดเลยว่า ควรใช้ LC ประจำตัว เพราะดา
เมจมันต่างกันมากจริงๆ แบบเห็นผลได้อย่างชัดเจน

Relic แนะนำ
แน่นอนว่าเป็นตัวละครดาเมจสายฟ้าก็ต้อง  Band of Sizzling Thunder 4 ชิ้น เพื่อเพิ่มดาเมจสายฟ้า 10% และทำให้เวลาใช้สกิลต่อสู้ ATK จะเพิ่มขึ้น 20% รวมถึงออฟหลักของตัวละครนี้ก็ทำค่อนข้างง่าย เน้นค่า ATK และ ATk% เป็นหลัก ไม่จำเป็นต้องมีคริ ส่วนรองเท้า ก็ขอแค่ออฟหลักเป็น Speed ก็จัดว่าใช้ได้แล้วครับ เพราะในการเล่นดันเจี้ยนที่โหดขึ้น ถ้าค่า Speed ต่ำไป ก็เล่นลำบาก

Eidolon ที่แนะนำ
หลักๆแล้ว E0 ก็โหดมาก แต่ถ้าพอสะดวกด้านการเงิน ก็ขอแนะนำที่ E1 ที่ช่วยทำให้ติดสถานะช็อตต่อเนื่องขึ้น และคุ้มค่าอีกที ก็เป็น E6 ที่เรียกได้ว่าสุดจัด ถ้าใครอวยมากๆ ก็ขอแนะนำให้ไปสุดเลย แต่ถ้าตัวนี้ยังไม่ใช่ก็เอาแค่พอประมาณ

ทีมที่แนะนำ  
FULL DOT Kafka + Sampo + Luka + Luocha
ทีมมาตรฐานที่เล่นง่าย เล่นสนุก เน้นการแปะสถานะ แล้วใช้ Kafka ระเบิดแบบจัดเต็ม ทำให้เป็นทีมทียืดหยุ่นในการเล่นอย่างมาก และใช้ Sampo ในการเติมดาเมจให้ต่อเนื่อง แต่ถ้าหากมองว่า Luka อาจจะไม่เหมาะกับคอนเทนต์ที่ต้องลง ก็อาจจะสับเป็นตัวซัพพอร์ตเพิ่มเข้ามาแทนได้เช่นกัน ที่สำคัญขาดไม่ได้เลย Luocha ที่จะคอยเติมฮิลให้กับทีมในสถานการณ์ที่จำเป็น

โดยรวมแล้ว Kafka ก็จัดว่าเป็นตัวละครที่เล่นสนุก เล่นง่ายไม่เข้าใจยาก แค่ต้องกดมือบ่อยหน่อย แต่ถ้าคอนเทนต์ไหนไม่ได้ตึงมาก ก็เล่นออโต้ได้สบายๆ ที่สำคัญใครกำลังมองหาตัวดาเมจสายฟ้าแรงๆก็ขอแนะนำให้เปิด ไม่ควรพลาด ส่วนครั้งหน้า Daily Heckle จะเอาตัวละครไหนมาแนะนำกันอีกก็รอติดตามกันได้เลยครับ

Continue Reading

MOBILE GAMES

(Review) Honkai: Star Rail เกมแนว Space Fantasy RPG จากทีมพัฒนา Genshin Impact

Honkai: Star Rail เกมมือถือที่ควรค่าเเก่การเล่น

Published

on

By

ช่วงนี้ต้องบอกตามตรงเลยว่ากำลังเบื่อๆเกมแนว FPS จนผู้เขียนได้มีโอกาสไปเจอกับเกมแนว Turn-Based RPG ที่กำลังเป็นกระแส ซึ่งเกมนี้บอกเลยว่าน่าสนใจอย่างมาก เพราะเป็นผลงานจากทีมพัฒนาอย่าง HoYoverse เจ้าของเกม Genshin Impact ก็เลยได้โหลดมาลองเล่นประมาณสัปดาห์กว่าๆ มีเปิดกาชาไปพอสมควร

เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์กันสักหน่อย ว่าเกมนี้ จัดว่าสนุกเลยทีเดียว เล่นเพลินแบบสุดๆ ถ้าหากเป็นคนที่ชื่นชอบ Turn-Based ก็จะสามารถเรียนรู้ตัวเกมและสนุกกับมันได้อย่างรวดเร็ว ในเรื่องของตัวละครและเนื้อเรื่องก็จัดว่าน่าสนใจ โดยเกมที่ทาง Daily Hecker อยากจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ก็คือ Honkai: Star Rail

เรื่องราวของ Astral Express ขบวนรถไฟสำรวจดวงดารา
ในส่วนของเนื้อเรื่อง Honkai: Star Rail ก็จัดว่าเข้มข้นไม่แพ้ Genshin Impact โดยเกมนี้จะเน้นธีมเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยในอวกาศ ที่มีหลายพรรคหลายพวกเป็นจำนวนมาก จัดว่ากลิ่น Sci-fi Fantasy แบบของแท้ โดยเนื้อเรื่องช่วงแรกเราจะได้รับบทเป็น นักเดินทาง ที่ตื่นมาพร้อมกับความทรงจำที่ขาดหายไป และร่างกายที่มาพร้อมกับพลังของอัญมณีหรือเมล็ดพันธุ์วิเศษ Stellaron

ซึ่งนักเดินทางจากต้องเดินทางไปกับ Astral Express เพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ และจะได้พบกับผู้คนมากมายในการผจญภัยครั้งใหญ่ที่ไม่รู้จบ แน่นอนว่าการเดินทางจะไร้เพื่อนก็คงไม่ใช่ เราจะได้พบกับตัวละครร่วมทางอย่าง น้องมีนา (March 7th) และ Dan Heng  แน่นอนว่าทั้งสองจะมีเรื่องราวปูมหลังให้เราได้ติดตามกันต่อด้วยนั้นเอง

งานภาพที่สดใหม่ สวยงามสมกับเป็นค่ายใหญ่มาลุยเอง
แม้ตัวเกมจะเรียบง่าย แต่ทาง HoYoverse ก็ไม่ละเลยที่จะสร้างสรรค์เกมเพลย์ออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นลายเส้นตัวละครที่แฟนมังงะ อนิเมะ จะต้องชื่นชอบ ฉาก และองค์ประกอบต่างๆยในเกม ที่มีมาตรฐานยอดเยี่ยม

รายละเอียดสกิล ท่าไม้ตาย สกิลต่างๆ ทำออกมาได้สวยงาม อลังการ ตามระดับตัวละคร ที่สำคัญ ตัวละครแต่ละตัว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ถ้าหากได้ลองมาเล่นเกมนี้ บอกเลยว่ามีตัวละครสักตัวที่จะต้องถูกจริตและตกคุณได้อย่างแน่นอนครับ

เกมเพลย์เรียบง่ายแต่มาพร้อมเอฟเฟคสกิลที่จัดหนักจัดเต็ม
ในส่วนของเกมเพลย์ ก็จะนำเสนอรูปแบบ Turn Based ที่เรียบง่ายไม่ซับซ้อน ต้องบริหารสกิล บริหารแต้มต่างๆการจัดทีมก็มีผล แต่สิ่งที่ต้องชมเลยก็คือ การ Action ต่างๆทำได้ลื่นไหล รวมถึง Cut Scene ต่างๆ อย่างอนิเมชันท่าไม้ตายของตัวละครต่างๆ โดยพวกตัวละคร 5 ดาว บอกเลยว่าเฟี้ยวสุดๆ อลังการจัดเต็ม ที่สำคัญแม้จะเล่นบนมือถือก็สามารถพอร์ตตัวเกมมาได้ดี ถ้าหากเป็นมือถือรุ่นใหม่ คาดว่าไม่มีปัญหาต้องห่วง ส่วนตัวใช้ iphone 12 promax ปรับภาพระดับกลาง ก็เล่นได้แบบลื่นๆแต่ก็กินแบตพอตัวเลยล่ะครับสำหรับ Honkail: Star Rail

เกมเพลย์ต่อสู้ที่ใช้ระบบการแพ้ธาตุ
ในโลกของ Honkail:Star Rail จะมีธาตุมากมาย ซึ่งจะมีผลต่อการเล่น บอสตัวไหนแพ้ทางธาตุไร เอาตัวชนะทางไปสู้ก็จะชนะได้ง่าย ไม่ซ้ำซ้อน โดยประกอบไปด้วย ธาตุควันตั้ม, ธาตุไฟฟ้า, ธาตุไฟ, ธาตุน้ำแข็ง, ธาตุลม, ธาตุกายภาพ และ ธาตุจินตภาพ ในส่วนของสกิลก็จะแบ่งเป็นสกิลต่อสู้และสกิลป้องกันตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น สกิลโล่ สกิลฮิล และสกิลบัพต่างๆ เช่นบัพดาเมจ เพิ่มพลังงานอันติ ในส่วนของสกิลต่อสู้ก็จะมีทั้งเป้าเดี่ยวและหมู่ แล้วแต่ตัวละครด้วยเช่นกัน ปั้นตัวกันเยอะเลยล่ะครับ

การสำรวจแผนที่ ที่มีอะไรให้ได้สำรวจมากมาย
ขึ้นชื่อว่าเป็นเกมจาก HoYoverse การสำรวจโลกในเกมก็สำคัญ แต่สำหรับ Honkail:Star Rail มันไม่ได้กินเวลาขนาดนั้น เดินเควสไปด้วย สำรวจไปด้วย ก็จะเจอไอเทมต่างๆที่ดรอปให้ มีไรให้รื้อพอสมควร แต่ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนอะไรเลย

ระบบการปั้นตัวละครที่หลากหลาย เล่นกันยาวๆ
ด้วยระบบการต่อสู้ที่เป็นแบบแพ้ธาตุทำให้ตัวเกมนั้น บังคับให้ผู้เล่นต้องพัฒนาปาร์ตี้มาเพื่อรองรับการต่อสู้ที่ระดับสูงขึ้น มีสิ่งที่ต้องพัฒนามากมายของตัวละคร ไม่ว่าจะเป็น Light Cone ที่เหมือนเป็นอาวุธประจำตัว รวมถึง Trace ที่เป็นเหมือนกันสกิล Talent และ Eidolon ที่จะเสริมประสิทธิภาพให้เกินขีดจำกัดเข้าไปอีก และเซ็ท Relic ที่จะเสริมสเตตัส เรียกได้ว่าเป็นรายละเอียดที่ต้องเล่าแยกเลยล่ะครับ เพราะมันเยอะและละเอียดมาก ไหนจะต้องหาของให้ตรงสาย ไหนจะต้องแบ่งทรัพยากรเพื่อพัฒนาตัวละครก่อนว่า ควรปั้นตัวไหน ควรให้ความสำคัญตัวไหนเป็นอย่างแรก

โดยรวมแล้ว Honkail: Star rail เป็นเกมที่ไม่ได้ทำให้ผู้เขียนผิดหวังเลยแม้แต่น้อย อาจจะเพราะชื่นชอบการเล่นเกมแนว Turn Based เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่สำคัญ เกมนี้ไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับมันนานขนาดนั้น ค่อนข้างเหมาะสำหรับคนที่เป็นวัยทำงาน ต้องการหาเกมเล่นชิลๆไม่หนักจนเกินไป เปย์กาชาบางตามโอกาส แต่จะเกลือหรือไม่อันนี้ก็อยู่ที่ดวงเลย แน่นอนว่ามันจะสนุก มันจะถูกใจคุณแค่ไหน อันนี้ต้องลองมาเล่นและพิสูจน์กันด้วยตัวเองนะครับ

Continue Reading

Trending